top of page

ทำความรู้จัก "โค้ชหงส์หยก"

  • รูปภาพนักเขียน: Hongyok Chimphan
    Hongyok Chimphan
  • 6 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที
จงภูมิใจในตัวเอง อย่าปล่อยให้ใครมาตีค่าตีความหมาย แต่จงกำหนด "คุณค่า" ให้กับตัวคุณเอง             --โค้ชหงส์หยก
จงภูมิใจในตัวเอง อย่าปล่อยให้ใครมาตีค่าตีความหมาย แต่จงกำหนด "คุณค่า" ให้กับตัวคุณเอง --โค้ชหงส์หยก

ก่อนจะมาเป็นโค้ช

โค้ชหงส์หยก ฉิมพันธ์ — เติบโตในครอบครัวที่ต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่อายุ 12 ปี เมื่อพ่อแม่ตัดสินใจแยกทางเธอคือเด็กหญิงธรรมดาในครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ภายในหัวใจกลับเต็มไปด้วยคำถาม คำท้าทาย และความเชื่อบางอย่างที่ไม่เคยดับ


ชีวิตของเธอผ่านช่วงเวลาที่เคย “เกือบเอาชีวิตไม่รอด”แต่ในความทุกข์นั้น เธอกลับได้รู้จักของขวัญที่ยิ่งใหญ่ — การเรียนรู้เพื่อเติบโตเธอเริ่มศึกษาจิตวิทยา การพัฒนาตนเอง ศาสตร์การโค้ชและใช้เวลาหลายปีค้นหาคำตอบจากภายใน ว่าชีวิตที่ “ดีขึ้น” นั้นเริ่มต้นจาก “ความเข้าใจในตัวเอง” ไม่ใช่จากการได้รับการยอมรับจากโลกภายนอก


ระหว่างการเดินทางสู่โค้ชมืออาชีพ

บทบาทของเธอเคยหลากหลาย ทั้งลูกจ้างในองค์กรเล็ก ๆภรรยาในครอบครัวธรรมดามนุษย์แม่ฟูลไทม์ที่เคยรู้สึก “ไม่มีคุณค่า”และสุดท้ายกลายเป็นผู้ประกอบการ นักเขียน นักพูด โค้ชหงส์หยกนิยามตัวเองว่าเป็น Human Innate Intelligence Coach ผู้หลงใหลในการเดินทางกลับไปสู่ “ภูมิปัญญาในตัวมนุษย์” ที่เราทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด


โค้ชหงส์หยกศึกษาอย่างลึกซึ้งในหลากหลายศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น NLP, Positive Psychology, จิตบำบัด, Energy Mastery, 3Principles และ RTT (Rapid Transformational Therapy) รวมถึงหลักสูตรภาวะผู้นำหญิงจากมหาวิทยาลัย Oxford ซึ่งเป็นมนุษย์แม่ไทยคนแรกที่จบหลักสูตรนี้ในขณะนั้น


ทุกความรู้ ทุกประสบการณ์ เธอนำมาหลอมรวมเป็นทักษะในการ “ฟังให้ลึก เห็นให้ชัด ฝึกตนขัดเกลาตัวเอง และพาให้เดินต่อได้”


5 ปรัชญาการทำงานของโค้ชหงส์หยก : 3H - 2E - 1A - 3R - 1T


  1. Heart, Humanity, Honesty

    ทำงานด้วยหัวใจ เข้าใจ ใส่ใจ และเคารพคุณค่าความเป็นมนุษย์

    เชื่อมั่นว่า…ทุกคนมีศักยภาพเฉพาะตัวที่พร้อมพัฒนาได้เสมอวและสามารถพัฒนาได้

  2. Excellence, Ethics

    มุ่งมั่นสร้างผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ พร้อมพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

    ภายใต้หลักจริยธรรมทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต

  3. Authenticity "เชื่อในตัวตนที่แท้ของแต่ละคน"

  4. Reality, Right, Role

    "กล้ายืนอยู่กับความเป็นจริง เลือกสิ่งที่เหมาะสม และรู้บทบาทของตนเอง

  5. Thriving

    "ไม่ใช่แค่มีชีวิตรอด… แต่ต้องเติบโตอย่างมีความสุข"


Fun Fact: เรื่องเล่าจากมุมเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนชีวิต


  1. เคยคิดว่าตัวเองเป็นแค่คนธรรมดา

    โค้ชหยก เคยคิดว่า ตัวเองเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง เลยใช้ชีวิตในแบบที่ธรรมดาๆ ไม่กล้าที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพที่มี แต่เมื่อเปลี่ยนแนวคิดใหม่ว่า ฉันจะเป็นคนธรรมดาที่แสนวิเศษ ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นในชีวิตมากมาย และมีความสุvเพิ่มมากขึ้นเพราะได้ลงมือทำตามเสียงหัวใจตัวเองแม้จะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างก็ตาม


  2. เคยรู้สึกว่าชีวิตโชคร้าย

    โค้ชหยก เคยมีบางช่วงของชีวิตที่รู้สึกว่า ชีวิตของตัวเองช่างโชคร้ายเหลือเกิน แต่พอผ่านมาได้ กลับรู้สึกขอบคุณกับความโชคร้ายเหล่านั้น ต่อให้มีโอกาสย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีตได้ ก็ขอมีชีวิตแบบที่เคยเป็นมา เพราะนั่นคือสมบัติล้ำค่าที่พ่อแม่มอบให้และใครก็มาขโมยไม่ได้


  3. ในช่วงเวลาหนึ่ง เคยรู้สึกไร้ค่า หลังจากพักจากงานประจำ เพื่อมาดูแลลูก เพราะเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ชอบทำงานมาก โค้ชหยก เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าเพราะออกมาเลี้ยงลูกแบบฟูลไทม์ ทำงานกับครอบครัวที่ต่างจังหวัดห่างไกลจากความศิวิไลซ์ในเมืองหลวง แต่เมื่อได้จัดสรรชีวิตได้ พาตัวเองกลับมาเห็นคุณค่าที่แท้จริง ก็สามารถสร้างคุณค่าให้กับตัวเองได้มากมาย ทำให้โค้ชหยกพบความจริงที่ว่า คุณค่าของคนเรานั้นไม่ได้อยู่ที่ “บริษัทใหญ่โต”, “ยศฐาบรรดาศักดิ์” “ตำแหน่งหน้าที่” “ชื่อเสียงเงินทอง” หรือสิ่งภายนอกเลยแม้แต่น้อย แต่คนเราทุกคน มีคุณค่าอยู่แล้ว และสามารถสร้างคุณค่าขึั้นมาได้อีกมากมายไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดหรือที่ใดก็ตาม ตอนนี้สิ่งที่โค้ชหยกภูมิใจมากที่สุดในชีวิตกลับไม่ใช่เพียงแค่เรื่องงาน แต่คือ การที่ได้เป็นคุณแม่และไม่ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง!


  4. เคยกลัวว่าไม่เก่งพอ ไม่คู่ควรจะเป็นนักเขียน

    โค้ชหยก เคยก้าวข้ามความกลัวของตัวเอง คิดว่าตัวเองดีไม่พอ เก่งไม่พอ เป็นเพียงคนตัวเล็กๆ โนเนมคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนดัง ไม่ใช่นักเขียน คงเป็นนักเขียนไม่ได้ แต่เมื่อก้าวข้ามความกลัว เหล่านั้นไป ก็สามารถทำได้ โค้ชหยกเขียนหนังสือเล่มแรกได้สำเร็จและติดลิสต์รายการหนังสือขายดีในร้านหนังสือระดับประเทศ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เป็นโค้ช และไม่ได้มีชื่อเสียงใดๆ เลย เป็นเพียงมนุษย์แม่ธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง (หนังสือเรื่อง เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดี)


  5. สิ่งที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต ไม่ใช่รางวัลหรือผลงานแต่คือการได้เป็น “คุณแม่” ที่ไม่ทิ้งความฝันของตัวเอง

    ตอนนี้สิ่งที่โค้ชหยกภูมิใจมากที่สุดในชีวิตกลับไม่ใช่เพียงแค่เรื่องงาน แต่คือ การที่ได้เป็นคุณแม่และไม่ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง!


โค้ชหงส์หยก ช่วยคุณได้บ้าง?


  1. สร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว

    ช่วยออกแบบกิจกรรมเพื่อเชื่อมใจพ่อแม่และลูกช่วยให้ครอบครัวกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เต็มไปด้วยพลังสนับสนุน

  2. ปลดล็อกศักยภาพในตัวคุณ

    ด้วยกระบวนการโค้ชที่ลึก ซื่อตรง และอ่อนโยนเธอช่วยให้คุณ “ฟังเสียงหัวใจตัวเอง” ได้ชัดขึ้น

  3. ส่งเสริมภาวะผู้นำหญิงและคนธรรมดาทุกคน

    ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใหญ่โตคุณก็สามารถเป็น “ผู้นำในชีวิตตัวเอง” ได้

  4. พาออกจากกับดักความกลัว

    ไม่ว่าจะกลัวล้มเหลว, กลัวไม่เก่ง, หรือกลัวไม่มีค่าเธอเชื่อว่า “ใคร ๆ ก็เปลี่ยนได้ ถ้ากล้าพอ”

คำพูดที่อยากฝากไว้

หากขณะนี้…คุณกำลังรู้สึกเหมือนชีวิตหยุดนิ่ง หรือรู้สึกว่าศักยภาพภายในตนเองยังไม่ถูกดึงออกมาใช้อย่างเต็มที่

โค้ชหงส์หยก "พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณ" ในจังหวะสำคัญช่วงเวลาที่คุณเลือกจะรับฟัง “เสียงจากภายใน”

ด้วยความกล้าหาญ และเมื่อคุณมองเห็นคุณค่าของตัวเองอย่างชัดเจนนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง


ในเมื่อเกิดมาได้เพียงครั้งเดียวครั้งนี้

เรามาก้าวข้ามความกลัวและข้อจำกัดของตัวเองไปด้วยกัน

แล้วสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้กับตัวเองกันนะคะ


ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่โค้ชหยกอยากเล่าและอยากแบ่งปัน

โค้ชหยกเชื่อว่า เรื่องราวชีวิตของคนเราทุกคนสามารถเป็นพลังให้กับคนอื่นได้ และอาจมีใครบางคนที่รอฟังเรื่องราวเหล่านี้อยู่ ไม่แน่นะว่า เรื่องราวชีวิตของเรา อาจสามารถช่วยใครสักคนบนโลกนี้ได้…เรื่องราวของคุณก็เช่นกันนะคะ อาจมีใครบางคนที่รอฟังอยู่เพื่อปลดล็อคตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าได้ต่อ


ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกท่านนะคะ


 
 
 

Comments


bottom of page